ข้อดีของตะแกรงไฟเบอร์กลาส

เคยสังเกตไหมว่าพื้นที่บริเวณรางระบายน้ำตามทางเดินที่มีฝาปิดลักษณะเป็นตะแกรงทรงสี่เหลี่ยม จากเดิมที่เป็นเหล็กทาสีก็ได้ถูกเปลี่ยนเป็นไฟเบอร์กลาสไปเสียเป็นส่วนใหญ่แล้ว หากมองแบบผิวเผินก็อาจจะไม่เห็นความแตกต่างนัก แต่ถ้าพิจารณาดี ๆ จะพบว่าทั้งรายละเอียดของรูปทรง สัดส่วน และรอยเชื่อมต่อนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง

เหตุผลที่ตะแกรงไฟเบอร์กลาสหรือที่หลายคนเรียกกันว่า “ตะแกรง FRP” ถูกนำมาใช้ทดแทนตะแกรงแบบเก่าก็เพราะมีข้อดีที่น่าสนใจหลายอย่างดังต่อไปนี้

1. น้ำหนักค่อนข้างเบา หากเทียบกับตะแกรงเหล็กทาสีแล้ว ตะแกรง FRP จะมีน้ำหนักที่เบากว่าหลายเท่าตัว ด้วยโครงสร้างที่รองรับของตะแกรง FRP จึงไม่ต้องใส่วัสดุเสริมแรงเพื่อรองรับน้ำหนักที่มากเกินไป ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ไม่น้อย อีกทั้งตะแกรง FRP ยังมีคุณสมบัติรองรับน้ำหนักได้สูง จึงเหมาะกับการนำมาปิดรางระบายน้ำหรือปูตามทางเดินอย่างยิ่ง

2. ทนต่อการกัดกร่อน ในสภาพแวดล้อมภายนอกที่ต้องเจอกับความร้อนและรังสียูวีจากแสงแดดตลอดเวลา หรือแม้แต่ความเป็นกรดด่างในน้ำที่ไหลมาตามรางระบายน้ำที่เราควบคุมไม่ได้ ตะแกรง FRP จะสามารถทนทานต่อการกัดกร่อนนั้นโดยมีความเสี่ยงต่อการสึกหรอน้อยมาก จึงช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น นอกจากนี้เรายังสามารถนำตะแกรง FRP ไปใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีสารเคมีเข้มข้นได้อีกด้วย

3. มีความฝืดเพียงพอที่จะป้องกันการลื่นได้ ปกติตะแกรงเหล็กเดิมนั้นจะมีความลื่นมากในเวลาที่ฝนตกหรือตะแกรงเปียกน้ำ แต่ตะแกรง FRP จะมีผิวสัมผัสที่ฝืดอยู่ตลอดเวลาก็สามารถช่วยลดการลื่นระหว่างที่เดินผ่านได้ อีกทั้งความฝืดนั้นก็ไม่ได้เกิดจากพื้นผิวที่ขรุขระ จึงไม่กลายเป็นแหล่งสะสมสิ่งสกปรกระหว่างการใช้งาน

4. สามารถออกแบบตามความต้องการใช้งานได้ แม้ว่าตะแกรงรางระบายน้ำตามทางเดินมักจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่ตะแกรง FRP ไม่ได้ใช้แค่พื้นที่นี้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นในสวน รอบสระว่ายน้ำ หรือแม้แต่ลานอเนกประสงค์ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน การออกแบบและปรับเปลี่ยนให้ตะแกรงมีรูปทรงที่ต่างออกไปจึงค่อนข้างสำคัญ จะให้เป็นทรงวงกลม ทรงสามเหลี่ยม หรือเป็นรูปทรงอิสระใด ๆ ก็ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้สอดคล้องกับงานดีไซน์ที่มีแนวคิดไร้ขอบเขตมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

เราจะเห็นได้ว่าตะแกรงไฟเบอร์กลาสมีข้อดีหลายจุดเลยทีเดียว ช่วยทำให้ความยุ่งยากในการจัดการหน้างานลดน้อยลงแล้วก็ไร้ข้อจำกัดในการติดตั้งมากขึ้นด้วย แม้ว่าราคาต้นทุนต่อชิ้นเมื่อเทียบกับตะแกรงเหล็กแบบเดิมจะถือว่าสูงอยู่พอสมควร แต่มันก็คุ้มค่ากับการลงทุนทั้งในแง่ของฟังก์ชันการใช้งาน ความปลอดภัย และการบำรุงรักษา ดังนั้นหากวัดกันในระยะยาวจะกลับกลายเป็นตะแกรงไฟเบอร์กลาสที่เสียค่าใช้จ่ายโดยรวมน้อยกว่าตะแกรงเหล็ก