เหล็ก คือโลหะชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย นับตั้งแต่อารยธรรมของมนุษย์ได้มีการค้นพบแร่ชนิดนี้ ก็มีการนำไปใช้เป็นโครงสร้างสำคัญของสิ่งต่าง ๆ และมีการพัฒนาคุณภาพแบ่งออกเป็นเหล็กหลายเกรดหลายส่วนผสม พัฒนาเรื่อยมาตราบจนถึงยุคสมัยใหม่ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันเหล็กถือว่าเป็นสิ่งที่มีราคามีมูลค่า อีกทั้งยังมักเป็นส่วนประกอบโครงสร้างสำคัญของสิ่งก่อสร้างหรืออุปกรณ์ที่ต้องการความคงทนแข็ง แรง ดังนั้นการคำนึงถึงปัญหาการก่อเกิดสนิม จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ที่ต้องหาทางป้องกันเพื่อยืดอายุการใช้งานให้มากที่สุด เพราะเมื่อใดที่ผ่านกาลเวลาและเกิดเหตุสนิมมาเกาะกิน แม้ว่าจะสังเกตเห็นสนิมและพยายามกำจัดมันออกแล้วก็ตาม แต่ทว่ามันอาจกัดกินลึก หรือกระจายจุดเล็กจุดน้อยจนยากที่จะกำจัดได้อย่างหมดจด นำมาซึ่งความ ผุกร่อน หมดสภาพของเหล็ก
การปกป้องสนิมก็จะต้องพิจารณาถึงสภาพแวดล้อมในบริเวณที่ตั้ง
ปัญหาการเกิดสนิมกับวัสดุที่เป็นเหล็กนั้น นับเป็นเรื่องที่คอยกวนใจให้กับผู้คนมาหลายยุคสมัย หากเป็นโครงสร้างของสินค้า ของใช้หรือของสะสม ก็อาจมีทางเลือกด้วยการหมั่นคอยทำความสะอาดบำรุงดูแลอย่างสม่ำเสมอ แต่หากเป็นวัสดุที่อยู่ในโครงสร้างของสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ หรือเป็นอุปกรณ์ที่ไม่สะดวกต่อการดูแลอย่างละเอียดเป็นประจำ ทางเลือกในการปกป้องสนิมก็จะต้องพิจารณาถึงสภาพแวดล้อมในบริเวณที่ตั้ง อยู่ในสถานที่ปิดกั้นจากมลภาวะภายนอกไม่ว่าจะเป็นมลภาวะจากฝนตก หรือจากแสงแดด และสารเคมีต่าง ๆ แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือทราบดีว่าแม้จะมีปัจจัยปกป้องเหล่านี้แล้ว แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้นของสนิมได้อยู่เช่นกัน หรือยังมีข้อกังวลใจและต้องการความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ก็ควรที่จะต้องพิจารณาถึงการเคลือบผิวของวัสดุด้วย โดยรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนั่นก็คือการเคลือบด้วยการทาสีการอบ ชุบ หรือการพ่นสีนั่นเอง
อากาศและความชื้นก็จะสามารถเข้าสร้างสนิมให้กับเหล็กได้แทบจะทันที
การเคลือบสีจะช่วยปกป้องสนิมได้อย่างไร ในทางวิทยาศาสตร์นั้น สนิม เกิดขึ้นจากกระบวนการทางเคมีและไฟฟ้า ที่เป็นปฏิกริยาต่อกันระหว่างเหล็กและสิ่งแวดล้อม ซึ่งกระบวนการนี้จะอาศัยความชื้น และ ออกซิเยนต์ มาบรรจบกับผิวเหล็ก และสร้างปฏิกิริยา ออกซิเดชัน เกิดขึ้นโดยที่พื้นผิวของเหล็กบางส่วนจะคอยทำหน้าที่เป็น แอโนด โดยที่คุณสมบัติของเหล็กนั้นมีการนำไฟฟ้าอยู่แล้วจึงทำให้ครบวงจรของหลักการไฟฟ้าและเคมีใน ท้ายที่สุด
ดังนั้นการลงสีเคลือบไว้บนพื้นผิวของเหล็กนั่นก็คือการขัดขวางไม่ให้กระบวนการดังนี้เกิดขึ้นได้สำ เร็จ เพราะก่อนที่ อากาศ ความชื้น จะเข้าบรรจบกับผิวของเหล็ก ก็จะคอยมีชั้นผิวของสีคอยกันไว้อีกชั้นหนึ่ง
แต่ทั้งนี้คุณภาพของความคงทนที่จะมั่นใจได้ก็จะต้องขึ้นอยู่กับรูปแบบของกระบวนการในการเคลือบสี รวมไปถึงชนิดและเกรดของสี ที่จะให้ผลลัพท์ในเรื่องคุณภาพที่แตกต่างกัน และกลับกันหากว่าเหล็กใดนั้นไม่มีการเคลือบสีอยู่เลย ในท้ายที่สุดก็เท่ากับไม่มีอะไรปกป้องไว้ อากาศและความชื้นก็จะสามารถเข้าสร้างสนิมให้กับเหล็กได้แทบจะทันที โดยขั้นตอนการเกิดสนิมจะเกิดขึ้นได้ง่ายและยังใช้ระยะเวลาอันสั้น ภายในไม่กี่วันสนิมก็โผล่ให้เห็นได้ชัดเจนเลยทีเดียว